สีมีหลากหลายที่เราสามารถนำมาผสมจับคู่ ทำให้การแต่งตัวดูเป๊ะและดูน่ามอง หากเรารู้วิธีง่ายๆในการจับคู่สีเสื้อผ้า จะทำให้เราดูมีสไตล์และง่ายกับเลือกชุดใส่ในแต่ละวัน
โดยทั่วไปการแต่งตัว สามารถมีสีได้มากถึง 7 สีที่อยู่ในชุดเดียวกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนชิ้นของเครื่องแต่งกายในแต่ละครั้ง
จารย์นำบทความจาก https://wonder-wardrobe.com/ ที่สอนการแต่งตัวด้วยวิธีการจับคู่สี 5 วิธีเพื่อใช้เป็นแนวทางเวลานักสาแต่งตัวออกจากบ้าน
นี่คือ 5 วิธีที่จะช่วยจับคู่สีเสื้อผ้าให้ดูดี
ลุคสีเดียวทั้งชุด (Monochrome Look)
การผสมสีที่ตัดกัน (Contrasting Combination)
การผสมสีโทนอ่อน (Soft Combination)
โทนธรรมชาติ neutral (Neutral color outfit)
การผสมสีกลางๆ กับสีอื่นๆ (A mix of neutral and complementary colors)
ลุคแบบสีเดียว
ลุคการเลือกเสื้อผ้าแบบสีเดียวกันทั้งชุดแต่มีเฉดของสีต่างกัน สามารถใช้ 2-3 เฉดสีต่างกันของของสีนั้นๆเพื่อความน่าสนใจมากขึ้น
การเลือกแต่งตัวแบบสีเดียวโดยมีเฉดต่างกันก็อีกวิธีการแต่งตัวแบบสีเดียวช่วยให้ลุคดูหลากหลายมากขึ้น
การเลือกใช้สีเสื้อผ้าที่ตัดกัน
การเลือกใช้สีที่ตัดกันหรือที่เรียกกันว่า Color Blocking คือการเลือกคู่สีที่ตรงข้ามกัน ทำให้สีแต่ละสีมีความชัดเจนมาก และสร้างความโดดเด่นและดูสนุกสนาน มั่นใจ
เฉดสีของสีแดงกับสีเขียว, สีน้ำเงินกับสีส้ม, สีม่วงกับสีเหลือง, และสีขาวกับสีดำ
สร้างลุคที่มีความคมชัด โดยเลือกสีหนึ่งเป็นสีหลักและอีกสีจะเป็นสีเสริมในสัดส่วน 70% ถึง 30%
จะดีขึ้นไปอีกถ้าเรารู้จัก skin tone ของตัวเอง และเลือกใช้สีที่เข้ากันกับโทนผิว ลองเข้าไปเช็คได้ตามแอปเเกี่ยวกับ Skin tone
สีโทนอ่อน
การแต่งตัวด้วยสีโทนอ่อนหรือสีพาสเทล ลุคที่ได้จะดูอ่อนโยนมากขึ้น, เป็นมิตรมากขึ้น, ดูเป็นสไตล์ที่ผ่อนคลายและนุ่มนวล น่ารัก
แบบโทนสีธรรมชาติ
คนที่ไม่ชอบสีสัน เหมาะกับการแต่งตัวโทนนี้ เช่น เฉดสีขาวต่างๆ, สีเบจ, สีคาเมล, เฉดสีเทาต่างๆ, สีน้ำตาล, และสีดำ
การแต่งตัวโทนนี้จะดูเนี้ยบมากขึ้นด้วยเสื้อผ้าที่ตัดเย็บประณีต สีโทนธรรมชาติจะเป็นสีที่นิยมใช้ในการแต่งตัวแนว Quiet Luxury เช่นกัน
แต่งตัวด้วยสีโทนกลางโดยมีสีอื่นๆเสริม
สี neutral จริงๆ แล้วสำคัญอย่างมากเนื่องจากสามารถเพิ่มความลงตัวให้เสื้อผ้าได้แบบพอดีๆ
สี neutral สามารถจับคู่ได้กับสีสดๆ หรือแม่สีได้โดยไม่ดูเคอะเขิน
Comments