ผู้โดยสารที่ประสบเหตุฉุกเฉินตกหลุมอากาศ ไฟลท์ SQ321 เมื่อวันที่ 21 พค.ที่ผ่านมา กลับถึงสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว โดยสิงคโปร์แอร์ไลน์ได้ไปรับผู้โดยสารที่ไม่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ กลับไปยังสิงคโปร์ โดยมีญาติและครอบครัวของแต่ละคนมารอรับ โดยต่างโอบกอดและร้องไห้ด้วยความตื้นตัน
ความรุนแรงของอุบัติเหตุสายการบิน SQ321 ทำให้มีผู้เสียชีวิตของหนึ่งคน อายุ 73 ปี และบาดเจ็บหลายสิบคน และนักบินได้ทำการลง emergency ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีทีมงานของท่าอากาศยานไทยและหน่วยรถพยาบาลได้ทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้เป็นอย่างดี
Photo: Reuters
สื่อ SIA ได้แถลงข่าวใน Facebook ในวันที่ 22 พฤษภาคมว่า นักโดยสารจำนวน 131 คนและบุคลากร 12 คนที่เดินทางด้วยเที่ยวบิน SQ321 ได้มาถึงสิงคโปร์ในเวลา 05:05 น. โดยเที่ยวบินช่วยเหลือ โดยมี CEO ของสายการบินรอรับด้วยตนเอง
ผู้โดยสารอีก 79 คน และบุคลากร 6 คน จากเที่ยวบินนี้ ยังคงรักษาตัวอยุ่ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
ส่วนใน FB ของ อาจารย์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ "ดร.สนธิ คชวัฒน์" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า โลกร้อนขึ้น โอกาสที่เครื่องบินจะตกหลุมอากาศมากขึ้น..เพราะอะไร?
เครื่องบินที่บินในบริเวณซีกโลกตะวันตกหรือบินจากโลกตะวันตกมายังซึกโลกตะ วันออกมีโอกาสที่จะตกหลุมออากาศบ่อยขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิในบรรยากาศของโลกที่สูงขึ้นทำให้ลมกรดหรือJet stream ซึ่งเป็นลมที่ใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการบินแปรปรวน
นักวิจัยชี้ว่าอัตราการเกิดหลุมอากาศจะเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าภายในปี2050และอาจมีเครื่องบินต้องเผชิญกับหลุมอากาศที่รุน แรงมากขึ้นถึง40%
(อ่านต่อได้ที่ https://www.facebook.com/sonthi.kotchawat/)
Photo by:
FB: Sonthi Kotchawat
Comments