ทะเลาะกับแฟนช่วยให้รักยืนยาว

รู้มั้ยว่า การทะเลาะกันของคู่รัก ทำให้ความสัมพันธ์ยาวนานขึ้น

Photo by Zdeněk Macháček on Unsplash

ความสัมพันธ์ที่มั่นคง ไม่ได้แค่มาจากการไปเที่ยวด้วยกัน กินของอร่อยๆด้วยกัน ของขวัญ หรือสิ่งแพงๆที่มีให้กัน แต่มันเกี่ยวกับการมีปากเสียงและการก้าวข้ามความขัดแย้งนั้นต่างหาก การทะเลาะกับแฟนเป็นเรื่องปกติ ความสัมพันธ์ที่ยืนยาวนั้นต้องดำเนินไปด้วยด้วยทั้งเรื่องที่เห็นตรงกัน และเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน

คีย์หลักคือการเผชิญปัญหาร่วมกัน เป็นพื้นที่ปลอดภัยซึ่งกันและกัน เพื่อให้แสดงตัวตนแท้จริงของตนเองได้ เพราะการเปิดเผย ความซื่อสัตย์และการสื่อสารที่เข้าใจกันจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น

การทะเลาะกันมีประโยชน์อย่างไร

1. คุณรู้สึกเบาลงหลังจากทะเลาะกัน

การทะเลาะกับคนรักทำให้รู้สึกเหนื่อยทั้งใจเหนื่อยทั้งกาย แต่เคยรู้สึกไหมว่าหลังจากการทะเลาะจบลง คุณรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก แทนที่จะเก็บความโกรธไว้ในใจจนทำให้เครียดและหน้าบึ้งตึงใส่กันตลอดเวลา แต่อย่าลืมสื่อสารกันอย่างมีวุฒิภาวะ เคารพซึ่งกันและกัน ระวังความรู้สึกของคนที่เรารัก และเลือกเวลาที่เหมาะสมจะทะเลาะกันเพื่อให้การทะเลาะกันจบลงด้วยความเข้าใจ

Photo by Maxime Gilbert on Unsplash

2. การฟังอย่างตั้งใจจะช่วยรักษาความสัมพันธ์

มองปัญหาในภาพรวม การทะเลาะกันไม่ควรเป็นการชี้นิ้วโทษกันไปมา แต่ควรมุ่งที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน การทะเลาะทำให้ทั้งคู่สามารถแสดงความผิดหวัง สิ่งที่รู้สึก และบอกเล่าว่าอะไรที่ทำให้เจ็บปวด เมื่อต่างฝ่ายต่างตั้งใจฟังในสิ่งที่คนรักกำลังรู้สึก คุณจะสามารถเข้าใจและร่วมรับรู้สิ่งที่คนรักกำลังต้องเผชิญได้ดีขึ้น ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่องเข้าใจผิดกัน ควรรีบแก้ไขให้เร็วที่สุดด้วยการนั่งคุยและตั้งใจฟังอีกฝ่าย รับรองว่าความรักของคุณจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน

Photo by Long Ma on Unsplash

3. การทะเลาะช่วยพัฒนาตนเอง

ใครบางคนกล่าวว่า “grow through what you go through” หมายถึง "คุณจะโตขึ้นเมื่อคุณผ่านมันไปได้น่ะแหละ" นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากในความสัมพันธ์ การทะเลาะกันก็เหมือนผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้ถูกประมวลผล มันไม่มีพลังและการเติบโตที่ควรจะเป็นในฐานะความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง การคอยให้ความใส่ใจในเรื่องสำคัญๆเกี่ยวกับคนที่คุณรัก และแสดงออกว่าคุณแคร์และอยากให้คนรักมีความสุข การทะเลาะกันจะช่วยให้เราฝึกและพัฒนาความอดทน ความเมตตาต่อกัน และพัฒนาความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้ความสัมพันธ์กับคุณและคนรักเป็นไปด้วยความมั่นคงและยืนยาว

Photo by Frida Lannerström on Unsplash