วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา Google เปิดตัวโมเดลประมวลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ชื่อ Gemini ซึ่งใช้ Generative AI เป็นพลังขับเคลื่อน โดย Google ยืนยันว่า Gemini มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-3.5 ในด้านความสามารถทางคณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และการวิเคราะห์ ผลการทดสอบของ Gemini ได้คะแนนที่ดีกว่าโมเดล GenAI ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ทุกด้าน
แต่ทว่า ตามรายงานของ CNBC ผู้บริหาร Google ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Gemini มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4 หรือไม่
Gemini เป็นโมเดล Multimodal ซึ่งรองรับข้อมูลและคำสั่งหลายประเภท เช่น ข้อความ ภาพ วิดีโอ เสียง และโค้ด มีการเทรนด์ด้วยข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบ Real-time Data โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Tensor Processing Units (TPU) v4 และ v5e ภายในองค์กรของ Google
Gemini มี 3 เวอร์ชัน คือ Gemini Ultra ที่รองรับข้อมูล 1T-2M พารามิเตอร์ ใช้สำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง, Gemini Pro ที่มีขนาดเล็กลงสำหรับการปรับขนาดในงานที่หลากหลาย และโมเดลบนอุปกรณ์ Nano-1 1.8B และ Nano-2 3.25B ที่ถูกออกแบบมาสำหรับแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟน
Google มีแผนที่จะให้สิทธิ์ใช้งาน Gemini ให้กับลูกค้าผ่าน Google Cloud เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้ในแอปพลิเคชันของตนเอง โดยนักพัฒนาและลูกค้าองค์กรสามารถเข้าถึง Gemini Pro ผ่านทาง Gemini API ใน Google AI Studio หรือ Google Cloud Vertex AI และนักพัฒนาที่ใช้งานผ่าน Android สามารถสร้างด้วย Gemini Nano ได้เช่นกัน
Gemini ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานกับผลิตภัณฑ์ของ Google เช่น Bard Chatbot และ Search Generative Experience ได้ด้วย
การอัปเดตครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเวลา 8 เดือนที่ Search Engine ประกาศเปิดตัว Bard และอย่างไรก็ตามเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (5 ธันวาคม) ผู้บริหาร Google ระบุว่า Gemini Pro มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-3.5 แต่ไม่ตอบคำถามว่ามันดีกว่า GPT-4 หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของ Google ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 ธันวาคม) โมเดล Ultra ของ Gemini มีประสิทธิภาพเหนือกว่า GPT-4 ในเกณฑ์บางประการ
Comments